ในปัจจุบันนั้นมีการใช้ไลน์กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศไทย มีการใช้ในการสื่อสารทั่วไปและในธุรกิจต่างๆแอพพลิเคชั่นไลน์ มีคนไทยใช้งานสูงถึง 47 ล้านคน ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันของคนไทยไปแล้ว ตื่นเช้าขึ้นมาหลายคนเปิดไลน์เช็คข้อความก่อนทำอย่างอื่น และหนึ่งในฟีเจอร์ที่คนนิยมไม่แพ้แชทข้อความก็คือการส่ง สติกเกอร์ไลน์ สื่อสารถึงกัน ไม่ว่าจะเป็น พ่อค้า แม่ค้า ออนไลน์ ก็มีการใช้สื่อสารถึงลูกค้า หรือสื่อสารทั่วไป บางคนก็นิยมนำรูปลูกน้อย มาทำสติกเกอร์ไลน์ลูกรัก อีกด้วยนอกจากจะน่ารักแล้วยังเป็นประโยชน์ในการลดเวลาพิมพ์อีกด้วยนะ
ปัจจุบันไลน์มีสติกเกอร์ขายในไลน์สโตร์ เป็นจำนวนมาก ทั้งแบบออฟฟิเชียลหรือสติกเกอร์ทางการที่เป็นตัวคาแรคเตอร์การ์ตูนของสตูดิโอดังๆ และอีกส่วนหนึ่งที่เรียกว่า“ครีเอเตอร์มาร์เก็ต” ให้ผู้สนใจ ทำสติกเกอร์ไลน์ ขาย ไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดเพศ ไม่ว่าคุณจะมีฝีมือระดับไหนก็สามารถทำได้ทั้งนั้น ไม่แน่นะ ผลงานของคุณอาจโดดเด่นในสายตาของใครๆก็เป็นได้ ส่วนแบ่งการขายสติกเกอร์ไลน์ สามารถสร้างรายได้ให้เราอีกด้วย ในปัจจุบัน ยังมีการ รับจ้างทำสติกเกอร์ไลน์ เพื่อตอบโจทย์ให้ทุกๆคนที่ต้องการมี ไม่ว่าจะเป็น สติกเกอร์ไลน์องค์กรต่างๆ หรือแบบเพื่อวางขาย
ออกแบบสติกเกอร์ไลน์ ทำได้ง่าย ขายได้จริง
ทำสติกเกอร์ไลน์ ขายได้จริงหรือไม่ วันนี้มีคำตอบ
วันนี้ทาง “ Wangnatan Studio” จะพามารู้จักกับสองครีเอเตอร์ที่ออกแบบสติกเกอร์ขายจนประสบความสำเร็จมีรายได้เสริมรวมถึงยึดเป็นอาชีพหลักไปแล้ว คนแรกเป็นหนุ่มคือ“แนท-นที สรพิพัฒน์” และอีกสาวคือ“เดียร์-จารุวรรณ เหมืองศรี
เริ่มกันที่ “แนท” บอกว่า มีงานประจำเป็นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น ส่วนการออกแบบสติกเกอร์ไลน์เป็นงานเสริม จุดเริ่มต้นจากเมื่อสามปีก่อน สติ๊กเกอร์ชื่อคนมีการใช้กันเยอะ จึงอยากมีอยากทำไว้ใช้เอง หลังจากนั้นจึงออกแบบสติกเกอร์เป็นคาแรคเตอร์ตัวกระต่ายออกมาขายจนถึงปัจจุบันมี 3 คาแรกเตอร์ คือ กระต่าย หมีหงุดหงิด และมนุษย์ออฟฟิศ ประมาณ 30 ชุด แต่ที่ประสบความสำเร็จ คือ หมีหงุดหงิด ได้รางวัลติดท็อป 10 ขายดีที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ค.63 จนถึงปัจจุบัน ส่วนสติกเกอร์มนุษย์ออฟฟิศ ออกแบบส่งประกวดโครงการ LINE CREATORS MARKET STICKER CONTEST 2018 และเป็น 1 ในผู้ชนะได้ไปดูงานที่ญี่ปุ่น
แนท บอกวิธีการออกแบบของตนเองว่า ส่วนใหญ่จะเอาจากที่ตัวเองชอบหรืออยากใช้สติกเกอร์รูปอะไรแล้วไม่มี เหมือนวาดเล่นๆ จากนั้นก็จะใช้ไอแพดในการผลิตตัวสติกเตอร์ออกมาเมื่อครบ 1 ชุด ก็นำขึ้นขาย สำหรับวิธีการ เมื่อเราไม่เคยทำสติกเกอร์ขายเลยก็ต้องสมัครลงทะเบียนก่อนผ่านเว็บ creator.line.me/th ซึ่งไม่ยากใช้ไอดีไลน์ เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จ ก็เอารูปที่ทำอัพโหลดขึ้นไปเพื่อให้ทางไลน์ตรวจใช้เวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็สามารถมีสติกเกอร์ขายได้เลย
ส่วนคนที่ไม่มีความสามารถในการวาดภาพ ก็สามารถใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ ครีเอเตอร์ สตูดิโอ โดยถ่ายรูป เช่น รูปตัวเรา รูปสัตว์เลี้ยง ก็สามารถทำสติกเกอร์ขายได้เหมือนกัน เมื่อขายประสบความสำเร็จแล้ว มีโอกาสที่ทางไลน์จะเชิญไปทำสติกเกอร์ในเชตที่มีเสียงพูดและเคลื่อนไหวได้
ด้านสาวนักออกแบบ “เดียร์-จารุวรรณ เหมืองศรี” บอกว่า ตอนแรกทำงานประจำแต่เป็นคนชอบวาดรูป พอแฟนเห็นไลน์เปิดรับสมัครให้ส่งสติกเกอร์ไปขายช่วงปลายปี 2557 แฟนจึงสมัครให้แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะมีงานประจำ จนผ่านมาหลายเดือนเริ่มออกแบบส่งไปขายจนลืม เพราะช่วงแรกไลน์ใช้เวลาตรวจสอบนานมาก จนได้มีสติกเกอร์ขายในปี 2558 ปัจจุบันมีสติกเกอร์กว่า 2,000 ชุด ส่วนใหญ่เป็นสติกเกอร์ชื่อแต่ที่เป็นตัวคาแรกเตอร์มีประมาณ 100 ชุด
เดียร์ บอกถึงการออกแบบของตนเองว่า ตัวคาแรกเตอร์ส่วนใหญ่ที่ออกแบบจะเป็นตัวผู้หญิงเพราะชอบวาดรูปผู้หญิง ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด คือ คาแรกเตอร์ชื่อ “ยูริ” เป็นผู้หญิงสวยๆ ช่วงแรกที่วางขายในปี 2558 ขายไม่ดี แต่ก็ทำมาเรื่อยๆ จนปีนี้ถือว่าปังสุดๆ เพราะมีการปรับเปลี่ยนลายเส้นการวาดบ้าง
โดยเฉพาะชุด 2 นอนแล้วฝันถึงยูริ แบบหน้าตาต่างๆ เมื่อตื่นมาจึงรีบมานั่งดราฟต์วาดออกมา จากตอนแรกจะหยุดวาดคาแรกเตอร์นี้แล้วไม่คาดคิดว่าเวลาผ่านมา 4-5 ปี จะประสบความสำเร็จปังแบบนี้ไปขายในต่างประเทศ คือ ไต้หวัน จนตอนนี้นอกจากภาษาไทยแล้วมีภาษาอังกฤษและจีนด้วย
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นทำให้เดียร์ไม่ได้ทำงานประจำแล้ว หลังกลับจากเรียนต่อก็มีครอบครัวมีลูก เลยเลี้ยงลูกและออกแบบสติกเกอร์ไปด้วย และตอนนี้รายได้จากสติกเกอร์แซงงานประจำไปแล้วจึงไม่ได้ไปสมัครงานที่ไหน
“เดียร์” บอกเคล็ดลับแนะนำคนที่สนใจว่า จากประสบการณ์ในแต่ละชุดต้องมีสติกเกอร์ที่มีคำพื้นฐาน เช่น สวัสดี กู๊ดไนต์ ขอบคุณ ฯลฯ และจะดูเทรนด์ของตลาดว่าเค้ากำลังฮิตคำไหน เช่น ในโซเซียลมีเดียจะได้คำมาใส่เยอะมาก ส่วนการออกแบบจะดูว่า ทรงผมผู้หญิงไทยที่ฮิต สีผม การแต่งตัว เรื่องเทรนด์แฟชั่นที่ฮิตช่วงนั้นๆ จะมีผลต่อยอดขายด้วย
นอกจากนี้ความถี่ของการออกแบบสติกเกอร์ มีผลต่อยอดขาย เนื่องจากการออกแบบสติกเกอร์เป็นอาชีพหลัก เราต้องมีวินัยในตัวเอง โดยใน 1 เดือนต้องออก 2 เซต เพื่อรักษาระดับรายได้ ถ้าไม่ออกต่อเนื่อง แฟนคลับของเราก็จะหายไป และการโปรโมตเพื่อทำตลาดก็สำคัญ เช่น ทำแฟนเพจของตัวเองให้มีฐานแฟนคลับติดตาม ฯลฯ
เรียกว่านอกจากออกแบบแล้ว ยังต้องมาวิเคราะห์เรื่องการตลาดด้วย จะวาดตามอารมณ์ไม่ได้ ไม่งั้นอาจจะขายไม่ออก ซึ่งหลายคนสงสัยว่าทำสติ๊กเกอร์ไลน์ขายรายได้ดีมั้ย?
เดียร์ บอกว่า รายได้หกหลักต่อเดือน แต่ไม่ได้แน่นอนทุกเดือน มีครีเอเตอร์บางคนที่ดังๆ อาจจะได้มากกว่านี้ และที่รู้จักบางคนยังเป็นเด็กเรียนมัธยมอยู่ ออกมาชุดเดียวบางคนซื้อรถได้เลย ส่วน แนท บอกว่า บางชุดขายได้หนึ่งพันดาวน์โหลด บางชุดก็ถึงหมื่นดาวน์โหลด ถือว่ารายได้ที่เข้ามาเป็นที่พอใจ
สุดท้าย เดียร์ บอกว่า การออกแบบสติกเกอร์ ช่วยให้มีรายได้ และมีเวลาอยู่กับครอบครัว เป็นงานที่เราทำแล้วมีความสุข ทุกครั้งที่วาดเสร็จมองดูแล้วมีความสุขโดยเฉพาะเมื่อเห็นมีคนใช้สติกเกอร์ของเรา ถ้ายังคงรายได้แบบนี้อยู่ก็จะออกแบบไปเรื่อยๆ จนกว่าจะขายไม่ได้ ก็จะมีช่องทางประกอบอาชีพอื่นรองรับอยู่ เช่นเดียวกับ “แนท” ก็จะยังออกแบบสติกเกอร์ขายเป็นอาชีพเสริมไปเรื่อยๆ เช่นกัน
ใครที่อ่านจบแล้ว อยากออกแบบสติกเกอร์ขายบ้าง ถ้ามีไอเดียอยู่รีบลงมือทำ ไม่แน่เงินแสนอาจลอยมาอยู่ในกระเป๋าได้ หรือหากสนใจ สามารถสั่งทำได้ที่ Wangnatan Studio
สุดท้ายนี้ผมก็ขอฝาก Wangnatan-Studio ในการว่าจ้างทำ Line Stickers ของทุกท่านด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ
สอบถามเพิ่มเติม คลิกที่นี่